โพรไบโอติกควรกินตอนไหน เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย บางคนอาจจะรู้ว่าโพรไบโอติกมีประโยชน์สำคัญอะไรต่อร่างกาย แต่ไม่แน่ใจว่าควรกินตอนไหนถึงจะได้ผลดีที่สุด บทความนี้จะมาแนะนำช่วงที่เหมาะสมในการกินโพรไบโอติก พร้อมปริมาณที่ควรกินต่อวันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลสุขภาพ
โพรไบโอติกคืออะไร?
โพรไบโอติก คือจุลินทรีย์ดีที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะลำไส้ ที่จะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ภายในระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการขับถ่าย ลดอาการกรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน ลดการติดเชื้อ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดไขมันหน้าท้องได้อีกด้วย
เราจำเป็นต้องกินโพรไบโอติกไหม?
โดยปกติแล้วจุลินทรีย์ตัวดีหรือโพรไบโอติก จะอยู่ในร่างกายเรามาตั้งแต่เกิด แต่จะลดลงและเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ การใช้ยาปฎิชีวนะ อาหาร ความเครียด และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
ซึ่งการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราหลีกเลี่ยงปัจจัยพวกนี้ได้ยากมากๆ ทั้งอาหารที่ต้องเน้นความสะดวกรวดเร็ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยปริมาณน้ำตาลและไขมันที่สูง ความเครียดจากการงาน รวมถึงเวลาเข้านอนที่ดึกมากๆ
ปัจจัยพวกนี้ล้วนทำให้โพรไบโอติกลดน้อยลง การกินโพรไบโอติกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เรากินโพรไบโอติกเข้าไปก็เพื่อเติมเต็มในส่วนที่สูญเสียไปจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรานั่นเอง
เราสามารถเลือกกินโพรไบโอติกได้ทั้งจากโยเกิร์ต นมเปรี้ยว อาหารหมักดอง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
โพรไบโอติกควรกินตอนไหน?
ช่วงเวลาในการกินโพรไบโอติกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด โดยมีคำแนะนำ ดังนี้
- กินตอนท้องว่าง: โพรไบโอติกควรกินในช่วงท้องว่าง เช่น ช่วงเช้าหลังตื่นนอน หรือก่อนอาหารเช้า เพื่อให้โพรไบโอติกเดินทางผ่านกระเพาะอาหารไปยังลำไส้ได้เร็วที่สุด เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหารในช่วงท้องว่างจะน้อยกว่าช่วงที่กินอาหาร ทำให้โพรไบโอติกมีโอกาสรอดไปถึงลำไส้ได้มากขึ้น
- กินก่อนนอน: การกินโพรไบโอติกก่อนนอนก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะช่วงกลางคืนระบบย่อยอาหารจะทำงานน้อยลง ทำให้โพรไบโอติกมีโอกาสรอดผ่านไปยังลำไส้ได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมยังขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกนั้นๆด้วย บางผลิตภัณฑ์อาจมีคำแนะนำเฉพาะเกี่ยวกับการรับประทาน เนื่องจากมีการใช้นวัตกรรม สายพันธุ์ และปริมาณโพรไบโอติกที่แตกต่างกัน
ปริมาณโพรไบโอติกที่ควรกินต่อวัน
มีคำแนะนำว่า ปริมาณโพรไบโอติกที่กิน ควรมีปริมาณตั้งแต่ 10-20 พันล้านตัว (CFU) ต่อวัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องยากเลย เนื่องจากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกในรูปแบบต่างๆมากมาย ทั้งแบบผง แคปซูล อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งมีปริมาณโพรไบโอติกที่เพียงพอต่อการส่งเสริมสุขภาพ
ส่วนอาหารทั่วๆไปก็อาจบอกได้ยากว่ามีปริมาณโพรไบโอติกเพียงพอไหม แต่อย่างน้อยกินเข้าไปก็ดีกว่าไม่ได้กินเลย ที่ต้องระวังก็จะเป็นพวกโซเดียมและน้ำตาลที่ใช้ในการหมักอาหารต่างๆ
ทั้งนี้ปริมาณโพรไบโอติกที่ควรกินต่อวันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆตามที่กล่าวไปในตอนต้นด้วย ถ้าคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสมดุลจุลินทรีย์สูง การเลือกผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกที่มีปริมาณเยอะ ก็จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น
หยุดกินโพรไบโอติกได้ไหม?
ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะได้รับจุลินทรีย์อยู่ตลอดเวลา จะเป็นตัวดีหรือตัวร้ายก็ต้องดูอีกทีว่าเราไปทำอะไรมาบ้าง ซึ่งก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชนิดและปริมาณจุลินทรีย์ภายในระบบทางเดินอาหารของเราได้ตลอดเวลา
ถ้าไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย ก็สามารถหยุดกินได้ แต่ก็ไม่ควรละเลย เพราะการกินอาหารที่มีโพรไบโอติกเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยในการปรับสมดุลจุลินทรีย์ภายในร่างกาย ซึ่งช่วยในการดูแลสุขภาพองค์รวม ทั้งเรื่องการขับถ่าย ลดอาการโรคลำไส้ต่างๆ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ให้เราได้อีกด้วย
การกินโพรไบโอติกให้เห็นผลดีที่สุดนั้น ต้องคำนึงทั้งเวลาในการกินและปริมาณที่เหมาะสม โดยการกินในช่วงท้องว่างหรือก่อนนอน และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณเพียงพอ
หากสงสัยว่าควรเริ่มต้นอย่างไร สามารถปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อรับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของคุณได้เลย
สุขภาพดี เริ่มต้นได้จากการดูแลระบบลำไส้ด้วยโพรไบโอติก
