ลดน้ำหนัก ลดไขมัน ด้วยโปรไบโอติกได้จริงหรือ?
ไขมันในช่องท้อง คืออะไร?
ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) คือ ไขมันที่ไว้ภายในช่องท้องใต้กล้ามเนื้อท้อง ซึ่งไขมันชนิดนี้สามารถละลายในเลือดได้ ทำให้แทรกซึมไปยังอวัยวะต่าง โดยเฉพาะไขมันพอกตับและไขมันในเส้นเลือด หากไขมันในช่องท้องสะสมอยู่เป็นเวลานานก็จะทำให้กลายเป็นก้อนไขมันและดันหน้าท้องให้ป่องกว่าคนปกติติ ทำให้เกิดภาวะลงพุง
ไขมันในช่องท้อง เกิดจากอะไร
ไขมันในช่องท้อง เกิดจากสารอาหารที่ทานเข้าไปแล้วร่างกายเผาผลาญไม่หมด ทำให้ร่างกายนำสารอาหารส่วนเกินเก็บไว้ใช้ในรูปของไขมัน ซึ่งเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายโดยเฉพาะใต้ช่องท้องและใต้ผิวหนัง
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีไขมันในช่องท้องมากหรือไม่?
โดยปกติหากต้องทราบการว่ามีไขมันในช่องท้องมากน้อยแค่ไหน จะต้องทำการอัลตร้าซาวด์เพื่อดูปริมาณไขมัน แต่เราสามารถคำนวนจากสัดส่วนเบื้องต้นของเราได้ดังนี้
นำ “รอบเอว” ตั้ง แล้วหารด้วย “รอบสะโพก” โดยใช้หน่วยเป็นเซ็นติเมตร ซึ่งจะได้อัตราส่วนเป็นเลขทศนิยม 2 หลัก
สำหรับผู้หญิง หากผลลัพธ์มากกว่า 0.80 แสดงว่ามีไขมันในช่องท้องมาก ส่วนผู้ชาย หากผลลัพธ์มากกว่า 0.95 แสดงว่ามีไขมันในช่องท้องมาก
โรคที่อาจจะเกิดจากการมีไขมันในช่องท้องมากเกินไป
- โรคเบาหวาน ประเภท 2
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคหัวใจขาดเลือด
- โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- โรคอัลไซเมอร์
- ไขมันพอกตับ
- หยุดหายใจขณะหลับ
วิธีลดไขมันในช่องท้อง
การลดไขมันใช่องท้องโดยการปรับพฤติกรรม
ไขมันในช่องจะกำจัยากกว่าก่าไขมันใต้ผิวหลัง การลดไขมันในช่องท้องด้วยการปรับพฤติกรรมจะค่อยๆช่วยให้ไขมันในช่องท้องค่อยๆลดลงอย่างช้า ซึ่งต้องอาศัยความจริงจังและความอดทนเป็นอย่างมาก แต่เป็นวิธีที่ประหยัดงบที่สุด โดยการปรับพฤติกรรมดังนี้
- ไม่ทานอาการหากเกินความจำเป็น
- เน้นทานอาการประเภทโปรตีนและเส้นใย
- ออกกำลังกายประจำ
- งดดื่มเหล้าและสูบบุหรี
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- เข้านอนแต่หัวค่ำ
การลดไขมันในช่องท้องด้วยโปรไบโอติก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีการศึกษาจุลินทรีย์ที่เป็นโปรไบโอติกแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งก็พบว่ามีจุลินทรีย์บางสายพันธุ์ เช่น Lactobacillus gasseri, Bifidobacterium breve มีส่วนช่วยในการลดไขมันในช่องท้อง การลดความอ้วน การลดรอบเอว ลดพุง ลดต้นแขนต้นขา ซึ่งรวมไปถึงการลดน้ำหนักด้วย
โดยเฉพาะ Lactobacillus gasseri ซึ่งได้มีงานวิจัยเมื่อปี 2018 ได้มีการวิจัยโดยทีมนักวิจัยจากเกาหลีใต้ได้ทำการลดลองในกลุ่มตัวอย่าง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มยาหลอก กลุ่มปริมาณปกติ กลุ่มปริมาณเข้มข้น
เมื่อทั้ง 3 กลุ่มทานโปรไบโอติกที่มี Lactobacillus gasseri ครบ 12 สัปดาห์ พบว่าในกลุ่มที่ทานโปรไบโอติกปริมาณปกติและปริมาณเข้มข้น มีไขมันในช่องท้องลดลง และรอบเอวลดลง เมื่อเทียบกับกลุ่มยาหลอก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ปริมาณเข้มข้น พบว่าเห็นผลดีมากกว่ากลุ่มปกติ