ถ้าผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไปจะเกิดอะไรกับร่างกาย
รู้หรือไม่ว่าร่างกายของคนเราที่แม้จะเกิดมาแบ่งแยกเพศสภาพเป็นหญิงหรือชายมาแต่กำเนิด แต่จริง ๆ แล้วภายในร่างกายของคนเรานั้นจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงรวมกัน ซึ่งจะคอยทำหน้าที่ให้ฮอร์โมนในร่างกายอยู่สภาวะสมดุล แต่ในอีกด้านถ้าหากฮอร์โมนตรงข้ามเพศสภาพของเรามีมากจนเกินไป นั่นก็อาจทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติขึ้นได้ และในที่นี้เราจะมาทำความเข้าใจกันในกรณีของผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายมากจนเกินไปจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง
หน้าที่ฮอร์โมนเพศชายที่อยู่ในร่างกายผู้หญิง
ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่าฮอร์โมนเพศชาย หรือ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่อยู่รวมกับฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายของเรามันได้ทำหน้าที่หรือสร้างประโยชน์อะไรให้กับร่างกายบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้ว พื้นฐานหลักของฮอร์โมนนี้จะช่วยเสริมกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง ดังนั้นหากผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายตัวนี้อยู่ในสภาวะที่สมดุลอย่างเหมาะสม มันจะทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง และช่วยส่งเสริมระบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปรับระบบเผาผลาญเป็นปกติ ลดการสะสมไขมันในร่างกาย รักษาระบบสืบพันธุ์และปรับระดับความต้องการทางเพศให้เป็นไปตามธรรมชาติ กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท สมอง และความจำ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ เช่น เบาหวาน หัวใจ มะเร็งเต้านม อีกด้วย
ผู้หญิงมีฮอร์โมนชายมากเกินไปจะเป็นอย่างไร
ในมุมกลับกันถ้าหากร่างกายของผู้หญิงมีระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่มากเกินกว่าปกติจนทำให้ระดับฮอร์โมนขาดสมดุล มันก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยมักจะแสดงอาการต่าง ๆ เหล่านี้
- ขนเยอะ สำหรับผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายเยอะ สิ่งแรก ๆ ที่มักจะสังเกตได้ง่ายเลยคือ ตามร่างกายจะพบขนขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด เช่น ขา แขน หนวด และจุดซ่อนเร้น ซึ่งจะคล้ายกับขนตามร่างกายของผู้ชาย
- หน้ามัน เป็นสิว โดยฮอร์โมนเพศชายที่เยอะกว่าปกติจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน จนทำให้หน้ามันแล้วเกิดสิวและรูขุมขนกว้าง
- ผมร่วง ผมบาง เนื่องจากปกติทั่วไปลักษณะผมของผู้ชายส่วนใหญ่แล้วมักจะบางตรงด้านหน้าถึงกลางศรีษะ หรือเรามักเรียกกันว่าหัวล้าน นั่นเลยส่งผลให้ผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายมาก ๆ ต้องเผชิญกับอาการผมร่วง ผมบาง เหมือนกับเพศชาย
- เสียงทุ้มห้าว แต่เดิมผู้หญิงเรามักจะมีเสียงนุ่มเล็กใส ๆ ดูน่ารัก แต่มันจะไม่เป็นแบบนั้นหากร่างกายของเราได้มีฮอร์โมนผู้ชายเยอะจนเกินพอดี มันก็จะส่งผลต่อเสียงพูดให้มีลักษณะเหมือนเสียงผู้ชายที่มีความทุ้มใหญ่กว่าผู้หญิงที่ระดับฮอร์โมนเพศชายอยู่ในระดับปกติ
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ จากวิจัยพบว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการของรังไข่ ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของไข่ในถุงไข่ถ้ามันมีปริมาณที่เหมาะสม แต่ถ้ามากเกินไปมันจะไประงับการตกไข่และส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอได้เช่นกัน และอาจถึงขั้นมีความเสี่ยงเป็น PCOS (Polycystic Ovarian Syndrome) หรือสภาวะมีบุตรยากด้วย
ผู้หญิงอยากปรับฮอร์โมนเพศชายให้สมดุลต้องทำอย่างไร
สำหรับผู้หญิงที่ต้องการปรับระดับฮอร์โมนเพศชายให้เป็นปกติ ส่วนใหญ่แล้วแพทย์มักจะแนะนำให้ใช้หลักพื้นฐานของการดูแลสุขภาพโดยทั่วไปเลย นั่นคือ การกินอาหารที่มีประโยชน์ครบตามหลักโภชนาการ การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงการรักษาสุขภาพจิตให้สบายใจ ทั้งหมดก็สามารถช่วยคงระดับฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิงให้เหมาะสมได้ แต่ในขณะเดียวทางการแพทย์เองก็มีวิธีช่วยรักษาด้วยการให้ยาหรือฮอร์โมนแก่ร่างกายเพื่อปรับสมดุล
ถ้าสาว ๆ คนไหนยังรู้สึกกังวลหรือไม่แน่ใจว่าระดับฮอร์โมนเพศชายในร่างกายของเราอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ หรืออยากรู้ว่าฮอร์โมนของตัวเองเป็นอย่างไร ก็สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนจากการเจาะเลือดได้เช่นเดียวกัน โดยผลการตรวจจากแพทย์นั้นจะช่วยบอกระดับฮอร์โมนได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการได้รับคำแนะนำจากแพทย์อย่างถูกต้อง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความรู้ดี ๆ ที่เรานำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะ ต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่างใด เพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ใครที่โฮโมนเพศชายเยอะก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป ใช้ชีวิตให้มีความสุขกันดีกว่าค่ะ แต่จะมีความสุขยิ่งกว่าถ้าขับถ่ายอย่างเป็นระบบ และหมดกังวลเรื่องน้ำหนัก เพียงหันมารับประทานโปรไบโอติก Lish Flora ตัวช่วยปรับสมดุลการขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และยังช่วยลดไขมันรอบเอวทำให้หุ่นดีกว่าที่เคยเป็นอีกด้วย
อ้างอิง apexprofoundbeauty, bumrungrad, hdmall
